ฉันไม่เคยข้ามถนนคนเดียวบนถนนที่รถเยอะแบบนี้ ฉันเลยยืนรออย่างลังเลอยู่บนฟุตบาท ไม่กล้าที่จะก้าวขาออกไปสักที มองดูนักเรียนคนอื่นทำไมพวกเขาชิลล์กันจังวะ ในขณะที่ฉันขยับขาไปมาอยู่พักใหญ่แล้ว ฉันกลัววว...“เธอ...ไม่ข้ามเหรอ” เสียงจากนักเรียนชายตัวสูง ผิวขาว โหง๋วเฮ้งเด็กเรียนฉายชัดบนใบหน้า เนิร์ดสุดๆ แต่น้ำเสียงอบอุ่นและโคตรใจดี เขาถามฉันมาขณะที่เดินมายืนข้างๆ ฉัน“...” ยังไม่ทันจะตอบอะไรเลย เขาก็คว้าข้อมือฉันให้เดินตามไปกับเขาและปล่อยทันทีเมื่อถึงอีกฝั่งหนึ่งอย่างปลอดภัย ราวกับจะสื่อให้ฉันรู้ว่าจับข้อมือฉันเพื่อพาข้ามถนนแค่นั้นแหละแล้วเขาก็เดินออกไป“นาย...” ฉันเรียกเขาไว้ทันทีที่เขาก้าวขาออกไปแค่ก้าวเดียว “นายรู้มั้ยว่าห้องม. 4/7 ไปทางไหน” ฉันถามเรื่องห้องเรียนไปเพราะที่นี่มีตึกเยอะแยะไปหมดและตอนนี้นักเรียนมากมายก็ทยอยเดินเข้ามาในรั้วโรงเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ“ตามมา” เสียงที่เปล่งออกมานั้นค่อนข้างเรียบเรื่อยไม่มีอารมณ์ด้านลบเจือปนในน้ำเสียง ไม่ได้มีความรำคาญ ไม่แสดงการดูถูกที่ฉันถามทางอย่างน้อยก็รู้สึกดีกว่าที่เก่าเยอะเลย ถ้าเป็นที่นั่นถามอะไรหน่อยก็หาว่าฉันโง่แล้ว คนนี้น่าจะคบเป็นเพื่อนได้“เราชื่อพิมนะ นายชื่ออะไร” ฉันแนะนำตัวไปกับคนที่เดินอยู่ข้างหน้าฉันเพราะเขากำลังเดินนำฉันไปห้องม. 4/7“ทอย” โอเค ฉันจะจำชื่อเด็กเนิร์ดใจดีคนนี้ไว้ ยกให้เค้าเป็นเพื่อนคนแรกที่กรุงเทพฯ ของฉันเลย. . . . .“ยังชอบเราเหมือนเดิมมั้ย”“ไม่รู้”“ไหนบอกจะไม่โกหกไง เราชอบเธอนะแล้วเธอชอบเรารึเปล่า”“เอ่อ...”“พิมตอบ ง่ายจะตายไม่ต้องคำนวณอะไรเลย”“ก็...อืม”“พูดให้มันชัดๆ หน่อย”“ชอบ เราชอบนาย พอใจรึ...อื้อ...” ยังไม่ทันที่จะพูดจบเลยทอยก็เข้ามาจูบฉันทันที ถึงจะตกใจแต่ฉันก็ไม่ได้ห้ามเค้า“เราก็ชอบเธอ ชอบมากด้วย” ทอยบอกฉันมาเมื่อผละออกจากฉัน แล้วดึงฉันให้ลุกขึ้นทั้งๆ ที่สงสัยว่าเค้าจะทำอะไร แล้วในหัวก็เหมือนจะรู้ได้เองว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อเค้าพาฉันมาที่เตียง
ฉันไม่เคยข้ามถนนคนเดียวบนถนนที่รถเยอะแบบนี้ ฉันเลยยืนรออย่างลังเลอยู่บนฟุตบาท ไม่กล้าที่จะก้าวขาออกไปสักที มองดูนักเรียนคนอื่นทำไมพวกเขาชิลล์กันจังวะ ในขณะที่ฉันขยับขาไปมาอยู่พักใหญ่แล้ว ฉันกลัววว...“เธอ...ไม่ข้ามเหรอ” เสียงจากนักเรียนชายตัวสูง ผิวขาว โหง๋วเฮ้งเด็กเรียนฉายชัดบนใบหน้า เนิร์ดสุดๆ แต่น้ำเสียงอบอุ่นและโคตรใจดี เขาถามฉันมาขณะที่เดินมายืนข้างๆ ฉัน“...” ยังไม่ทันจะตอบอะไรเลย เขาก็คว้าข้อมือฉันให้เดินตามไปกับเขาและปล่อยทันทีเมื่อถึงอีกฝั่งหนึ่งอย่างปลอดภัย ราวกับจะสื่อให้ฉันรู้ว่าจับข้อมือฉันเพื่อพาข้ามถนนแค่นั้นแหละแล้วเขาก็เดินออกไป“นาย...” ฉันเรียกเขาไว้ทันทีที่เขาก้าวขาออกไปแค่ก้าวเดียว “นายรู้มั้ยว่าห้องม. 4/7 ไปทางไหน” ฉันถามเรื่องห้องเรียนไปเพราะที่นี่มีตึกเยอะแยะไปหมดและตอนนี้นักเรียนมากมายก็ทยอยเดินเข้ามาในรั้วโรงเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ“ตามมา” เสียงที่เปล่งออกมานั้นค่อนข้างเรียบเรื่อยไม่มีอารมณ์ด้านลบเจือปนในน้ำเสียง ไม่ได้มีความรำคาญ ไม่แสดงการดูถูกที่ฉันถามทางอย่างน้อยก็รู้สึกดีกว่าที่เก่าเยอะเลย ถ้าเป็นที่นั่นถามอะไรหน่อยก็หาว่าฉันโง่แล้ว คนนี้น่าจะคบเป็นเพื่อนได้“เราชื่อพิมนะ นายชื่ออะไร” ฉันแนะนำตัวไปกับคนที่เดินอยู่ข้างหน้าฉันเพราะเขากำลังเดินนำฉันไปห้องม. 4/7“ทอย” โอเค ฉันจะจำชื่อเด็กเนิร์ดใจดีคนนี้ไว้ ยกให้เค้าเป็นเพื่อนคนแรกที่กรุงเทพฯ ของฉันเลย. . . . .“ยังชอบเราเหมือนเดิมมั้ย”“ไม่รู้”“ไหนบอกจะไม่โกหกไง เราชอบเธอนะแล้วเธอชอบเรารึเปล่า”“เอ่อ...”“พิมตอบ ง่ายจะตายไม่ต้องคำนวณอะไรเลย”“ก็...อืม”“พูดให้มันชัดๆ หน่อย”“ชอบ เราชอบนาย พอใจรึ...อื้อ...” ยังไม่ทันที่จะพูดจบเลยทอยก็เข้ามาจูบฉันทันที ถึงจะตกใจแต่ฉันก็ไม่ได้ห้ามเค้า“เราก็ชอบเธอ ชอบมากด้วย” ทอยบอกฉันมาเมื่อผละออกจากฉัน แล้วดึงฉันให้ลุกขึ้นทั้งๆ ที่สงสัยว่าเค้าจะทำอะไร แล้วในหัวก็เหมือนจะรู้ได้เองว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อเค้าพาฉันมาที่เตียง