ปีหนึ่ง เธอเจอเขาครั้งแรกที่นั่น ตึกคณะแพทย์ สูง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มมีน้ำหนัก ใบหน้าลงตัว ชุดนักศึกษาถูกระเบียบแต่กลับไม่ดูจืดชืดบนกายแกร่ง แก้มมีลักยิ้มทันทีที่เผยรอยยิ้มนิดๆ นั่น นัยน์ตาสีประหลาดของความเป็นลูกครึ่ง เหงื่อไหลอาบแต่ดันเซ็กซี่มีช่วงวินาทีหนึ่งเขามองมาที่เธอ หญิงสาวร่างกายเหมือนถูกไฟช็อตรุนแรงเขาชื่อดลย์ พีรดลย์เธอชื่อสุรางค์ พรรษาสุรางค์นี่เป็นเรื่องราวของเธอและของเขา ผู้ชายที่เธอตกหลุมรักและตะเกือกตะกายขึ้นมาจากหลุมที่เป็นโคลนดูดนั้นไม่ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่หย่อนเท้าตกลงไป ******************************“หิวไหม” พีรดลย์ถามคนที่เท้าคางมองออกไปข้างนอก“นายหิว?” หญิงสาวถามย้อนกลับมาแทน ชายหนุ่มเลยไม่ปฏิเสธใช่ เขาหิว เพราะเพิ่งพุ่งออกมาจากห้องผ่าตัดใหญ่เวลาแปดชั่วโมงในโรงพยาบาลทำให้เขาไม่รู้เลยว่าเธอกลับมา “กินอะไรก็ได้” หลังจากเขาพยักหน้าเธอก็บอกเมนูที่ผู้ชายเป็นต้องหัวหมุนทุกครั้ง แต่พีรดลย์พยายามไม่เดาใจผู้หญิงคนนี้ ตีไฟเลี้ยวไปยังโรงพยาบาล วนหาที่จอดรถไม่นานก็ดับเครื่อง“โรงพยาบาล?”“ก็เธอบอกกินอะไรก็ได้ ฉันมีร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าหนึ่งเปิดตอนกลางคืน อร่อยดี หมอกับพยาบาลชอบมาก”เขาเปิดประตูลงไปก่อน หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัยตามไปติดๆ อากาศภายนอกชื้นเพราะน้ำค้าง กระชับเสื้อคลุมเดินตามคนขายาวเข้าไปภายใน คนทักตลอดทางเขาก็ยิ้มตลอดทาง พออยู่ในที่ที่สว่างจ้าเธอถึงเห็นว่าขอบตาของชายหนุ่มดำคล้ำมาก “ยังไม่ตายน่า” ราวกับอ่านใจเธอออก เขาพึมพำ นวดลำคอไปมา“เห็นบอกจะย้ายที่ทำงาน” ออกจากลิฟต์ลงมาโรงอาหารเธอก็พูด เดินตามเขาไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวอะไรนั่น สั่งเหมือนกันแล้วนั่งรอ คนมองเขาและเธอ โดยเฉพาะพยาบาลสาวๆ“อืม ที่นี่ไม่มีตำแหน่งให้ฉัน ฉันเลยออกไปหาที่ที่มีตำแหน่งให้”“ที่ไหน” เธอกอดอกมองคนที่นั่งเท้าคางเล่นแหวนอุปโลกน์ของเธอเหมือนติดใจมัน“โรงพยาบาลของตาเธอ”“อ้อ” เธอรับคำได้แค่นั้นก๋วยเตี๋ยวก็มาถึงมือ ขนาดเด็กเสิร์ฟยังมองเขาเลย อะไรจะขนาดนั้น“แล้วเรื่องแหวนนี่ล่ะ” มือเล็กหยิบแหวนวงใหญ่มาวางบนโต๊ะ เขาเหลือบมองนิดหนึ่งและเริ่มกิน“กินตอนร้อนๆ อร่อยนะ”นี่ไม่คิดจะตอบหรือไง“แก้ปัญหาไปวันๆ ไม่อยากตอบคำถามว่ามีแฟนหรือยัง โสดไหม”หญิงสาวได้คำตอบแล้วก็ก้มหน้ากินทันที แต่เธอไม่ชอบผักคะน้าในถ้วยเลยคีบมันขึ้นมาแล้ววางใส่ถ้วยของเขา ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคีบหมูเนื้อนุ่มให้คืนสองชิ้น เธอถึงกับขยับตัวไม่ได้ไปครู่หนึ่ง“แหวนเธอล่ะ”“รู้แล้วยังจะถาม” ว่าอ้อมแอ้ม ชายหนุ่มเลยผ่อนลมหายใจยาว เงยหน้าขึ้นมามองคนที่กินเนื้อหมูที่เขาให้อย่างละเมียดเหมือนกลัวว่ามันจะหมด“อร่อยไหม”“จืดไปหน่อย”เขารู้ รู้ว่าเธอชอบของรสจัด ไม่ชอบผักบางชนิดเพราะเขามองหน้าไม่เลิก เธอเลยขมวดคิ้วถามดุๆ“มองอะไรนักหนา”“อยากจูบ”แคกๆเธอไม่ได้เป็นคนไอ แต่เป็นโต๊ะข้างๆ หญิงสาวไม่เสี่ยงหันไปมอง รู้ว่าตัวเองหูแดงด้วย“พูดบ้าอะไร กินไปเลย”“กินหมดแล้ว เธอกินช้า” หน้าที่เกือบจะเปลี่ยนสีเงยมอง หมดแล้วจริงๆ หญิงสาวเลื่อนของตัวเองไปให้“กินก่อนออกมาที่นี่ไม่กี่ชั่วโมง อิ่มอยู่”ชายหนุ่มส่ายหัวแต่ก็ยอมกินของที่เธอกินไม่หมด ท่ามกลางสายตาตกตะลึงตาค้างจังงังของคนรอบข้าง หมอดลย์ที่ครองตัวเป็นพระมาตลอด ไม่ข้องแวะกับใคร บอกว่าแต่งงานแล้วกำลังนั่งกินข้าวกับสาว แบ่งผักลูกชิ้น และกินแทนกัน!“แล้วยังจะมากินกับฉันอีกนะ” เขาบ่นให้คนที่กินแล้วยังมาเป็นเพื่อน“ก็นายบอกหิว”แค่ประโยคเดียวทำให้เขาถึงกับเงยหน้าขึ้นมายิ้มจนแก้มแตก ลักยิ้มโผล่ทั้งสองข้าง อย่าว่าแต่เธอเลย คนรอบข้างก็ตาลอย“คืนนี้นอนไหน” ดื่มน้ำตามเสร็จก็ถามคนตัวเล็กที่ทำหน้าเรียบเฉยแต่ท่าทางกระสับกระส่าย“นอนบ้านตา”“คอนโดฯ ล่ะ”“อยู่อีกฟากเมือง”เสียงเลื่อนเก้าอี้ทำให้เธอเงยหน้าขึ้น มองคนที่ก้มลงมาเอ่ย “งั้นไปเถอะ”“ไปไหน”“ไปคอนโดฯ เธอไง คอนโดฯ ฉันยังไม่ได้เก็บให้เรียบร้อย เพิ่งย้ายเข้าที่ใหม่ ไปนอนที่ห้องเธอละกัน”“แล้วทำไมต้องห้องฉัน” หญิงสาวลุกขึ้นยืน แต่เขาขยับมาประชิดจนร่างกายแทบเบียดกัน หญิงสาวผงะมือดันบ่าหนาไว้ เขาก้มลงมากระซิบ“จะให้ฉันไปจูบหลานสาวที่บ้านของเขาหรือไง ถามแปลก”ถ้าไม่เซก็แปลกแล้ว เธอสะบัดร้อนสะบัดหนาวมองคนที่ยิ้มกริ่มแล้วผละออกห่างให้เธอมีพื้นที่หายใจ“ไปเถอะ เหนื่อยมาก” เขาเดินนำไปก่อนที่เธอจะโต้แย้งพรรษาสุรางค์มองคนที่ผิวปากอารมณ์ดีขัดกับคำว่าเหนื่อย ดูท่าจะเป็นเธอเองนี่ละเหนื่อยถ้าตั้งรับเขาไม่ทัน ในเมื่อเขารุกเร็วขนาดนี้ เธอต้องรับให้ทันและรุกตอบกลับให้ได้ ไม่งั้นเธอได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาแน่
ปีหนึ่ง เธอเจอเขาครั้งแรกที่นั่น ตึกคณะแพทย์ สูง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มมีน้ำหนัก ใบหน้าลงตัว ชุดนักศึกษาถูกระเบียบแต่กลับไม่ดูจืดชืดบนกายแกร่ง แก้มมีลักยิ้มทันทีที่เผยรอยยิ้มนิดๆ นั่น นัยน์ตาสีประหลาดของความเป็นลูกครึ่ง เหงื่อไหลอาบแต่ดันเซ็กซี่มีช่วงวินาทีหนึ่งเขามองมาที่เธอ หญิงสาวร่างกายเหมือนถูกไฟช็อตรุนแรงเขาชื่อดลย์ พีรดลย์เธอชื่อสุรางค์ พรรษาสุรางค์นี่เป็นเรื่องราวของเธอและของเขา ผู้ชายที่เธอตกหลุมรักและตะเกือกตะกายขึ้นมาจากหลุมที่เป็นโคลนดูดนั้นไม่ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่หย่อนเท้าตกลงไป ******************************“หิวไหม” พีรดลย์ถามคนที่เท้าคางมองออกไปข้างนอก“นายหิว?” หญิงสาวถามย้อนกลับมาแทน ชายหนุ่มเลยไม่ปฏิเสธใช่ เขาหิว เพราะเพิ่งพุ่งออกมาจากห้องผ่าตัดใหญ่เวลาแปดชั่วโมงในโรงพยาบาลทำให้เขาไม่รู้เลยว่าเธอกลับมา “กินอะไรก็ได้” หลังจากเขาพยักหน้าเธอก็บอกเมนูที่ผู้ชายเป็นต้องหัวหมุนทุกครั้ง แต่พีรดลย์พยายามไม่เดาใจผู้หญิงคนนี้ ตีไฟเลี้ยวไปยังโรงพยาบาล วนหาที่จอดรถไม่นานก็ดับเครื่อง“โรงพยาบาล?”“ก็เธอบอกกินอะไรก็ได้ ฉันมีร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าหนึ่งเปิดตอนกลางคืน อร่อยดี หมอกับพยาบาลชอบมาก”เขาเปิดประตูลงไปก่อน หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัยตามไปติดๆ อากาศภายนอกชื้นเพราะน้ำค้าง กระชับเสื้อคลุมเดินตามคนขายาวเข้าไปภายใน คนทักตลอดทางเขาก็ยิ้มตลอดทาง พออยู่ในที่ที่สว่างจ้าเธอถึงเห็นว่าขอบตาของชายหนุ่มดำคล้ำมาก “ยังไม่ตายน่า” ราวกับอ่านใจเธอออก เขาพึมพำ นวดลำคอไปมา“เห็นบอกจะย้ายที่ทำงาน” ออกจากลิฟต์ลงมาโรงอาหารเธอก็พูด เดินตามเขาไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวอะไรนั่น สั่งเหมือนกันแล้วนั่งรอ คนมองเขาและเธอ โดยเฉพาะพยาบาลสาวๆ“อืม ที่นี่ไม่มีตำแหน่งให้ฉัน ฉันเลยออกไปหาที่ที่มีตำแหน่งให้”“ที่ไหน” เธอกอดอกมองคนที่นั่งเท้าคางเล่นแหวนอุปโลกน์ของเธอเหมือนติดใจมัน“โรงพยาบาลของตาเธอ”“อ้อ” เธอรับคำได้แค่นั้นก๋วยเตี๋ยวก็มาถึงมือ ขนาดเด็กเสิร์ฟยังมองเขาเลย อะไรจะขนาดนั้น“แล้วเรื่องแหวนนี่ล่ะ” มือเล็กหยิบแหวนวงใหญ่มาวางบนโต๊ะ เขาเหลือบมองนิดหนึ่งและเริ่มกิน“กินตอนร้อนๆ อร่อยนะ”นี่ไม่คิดจะตอบหรือไง“แก้ปัญหาไปวันๆ ไม่อยากตอบคำถามว่ามีแฟนหรือยัง โสดไหม”หญิงสาวได้คำตอบแล้วก็ก้มหน้ากินทันที แต่เธอไม่ชอบผักคะน้าในถ้วยเลยคีบมันขึ้นมาแล้ววางใส่ถ้วยของเขา ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคีบหมูเนื้อนุ่มให้คืนสองชิ้น เธอถึงกับขยับตัวไม่ได้ไปครู่หนึ่ง“แหวนเธอล่ะ”“รู้แล้วยังจะถาม” ว่าอ้อมแอ้ม ชายหนุ่มเลยผ่อนลมหายใจยาว เงยหน้าขึ้นมามองคนที่กินเนื้อหมูที่เขาให้อย่างละเมียดเหมือนกลัวว่ามันจะหมด“อร่อยไหม”“จืดไปหน่อย”เขารู้ รู้ว่าเธอชอบของรสจัด ไม่ชอบผักบางชนิดเพราะเขามองหน้าไม่เลิก เธอเลยขมวดคิ้วถามดุๆ“มองอะไรนักหนา”“อยากจูบ”แคกๆเธอไม่ได้เป็นคนไอ แต่เป็นโต๊ะข้างๆ หญิงสาวไม่เสี่ยงหันไปมอง รู้ว่าตัวเองหูแดงด้วย“พูดบ้าอะไร กินไปเลย”“กินหมดแล้ว เธอกินช้า” หน้าที่เกือบจะเปลี่ยนสีเงยมอง หมดแล้วจริงๆ หญิงสาวเลื่อนของตัวเองไปให้“กินก่อนออกมาที่นี่ไม่กี่ชั่วโมง อิ่มอยู่”ชายหนุ่มส่ายหัวแต่ก็ยอมกินของที่เธอกินไม่หมด ท่ามกลางสายตาตกตะลึงตาค้างจังงังของคนรอบข้าง หมอดลย์ที่ครองตัวเป็นพระมาตลอด ไม่ข้องแวะกับใคร บอกว่าแต่งงานแล้วกำลังนั่งกินข้าวกับสาว แบ่งผักลูกชิ้น และกินแทนกัน!“แล้วยังจะมากินกับฉันอีกนะ” เขาบ่นให้คนที่กินแล้วยังมาเป็นเพื่อน“ก็นายบอกหิว”แค่ประโยคเดียวทำให้เขาถึงกับเงยหน้าขึ้นมายิ้มจนแก้มแตก ลักยิ้มโผล่ทั้งสองข้าง อย่าว่าแต่เธอเลย คนรอบข้างก็ตาลอย“คืนนี้นอนไหน” ดื่มน้ำตามเสร็จก็ถามคนตัวเล็กที่ทำหน้าเรียบเฉยแต่ท่าทางกระสับกระส่าย“นอนบ้านตา”“คอนโดฯ ล่ะ”“อยู่อีกฟากเมือง”เสียงเลื่อนเก้าอี้ทำให้เธอเงยหน้าขึ้น มองคนที่ก้มลงมาเอ่ย “งั้นไปเถอะ”“ไปไหน”“ไปคอนโดฯ เธอไง คอนโดฯ ฉันยังไม่ได้เก็บให้เรียบร้อย เพิ่งย้ายเข้าที่ใหม่ ไปนอนที่ห้องเธอละกัน”“แล้วทำไมต้องห้องฉัน” หญิงสาวลุกขึ้นยืน แต่เขาขยับมาประชิดจนร่างกายแทบเบียดกัน หญิงสาวผงะมือดันบ่าหนาไว้ เขาก้มลงมากระซิบ“จะให้ฉันไปจูบหลานสาวที่บ้านของเขาหรือไง ถามแปลก”ถ้าไม่เซก็แปลกแล้ว เธอสะบัดร้อนสะบัดหนาวมองคนที่ยิ้มกริ่มแล้วผละออกห่างให้เธอมีพื้นที่หายใจ“ไปเถอะ เหนื่อยมาก” เขาเดินนำไปก่อนที่เธอจะโต้แย้งพรรษาสุรางค์มองคนที่ผิวปากอารมณ์ดีขัดกับคำว่าเหนื่อย ดูท่าจะเป็นเธอเองนี่ละเหนื่อยถ้าตั้งรับเขาไม่ทัน ในเมื่อเขารุกเร็วขนาดนี้ เธอต้องรับให้ทันและรุกตอบกลับให้ได้ ไม่งั้นเธอได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาแน่